This is default featured slide 1 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 2 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 3 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 4 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 5 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

วันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

อย่า บอก ว่าเราทำไม่ได้ อย่าบอกว่าเราทำไม่ได้ ถ้าเรายังไม่ได้ลงมือทำ

วันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

บอร์ด ธ.ก.ส.ไฟเขียวแก้หนี้เกษตรกรเยียวยาลูกค้ากว่า 8 แสนราย วงเงิน 116,000 ล้านบาท

ประชาชาติธุรกิจ
ประชาชาติธุรกิจ สนับสนุนเนื้อหา
บอร์ด ธ.ก.ส.ไฟเขียวแก้หนี้เกษตรกรเยียวยาลูกค้ากว่า 8 แสนราย วงเงิน 116,000 ล้านบาท
บอร์ด ธ.ก.ส.ไฟเขียวแก้หนี้เกษตรกรเยียวยาลูกค้ากว่า 8 แสนราย วงเงิน 116,000 ล้านบาท
บอร์ด ธ.ก.ส.มีมติเห็นชอบแก้ปัญหาสิน เกษตรกรลูกค้ากว่า 818,000 ราย มูลหนี้ 116,000 ล้านบาท ผ่านโครงการปลดเปลื้องหนี้สิน ปรับปรุงโครงสร้างหนี้และขยายเวลาชำระหนี้ พร้อมตอบแทนลูกค้าชั้นดีลดอกเบี้ยเงินกู้ให้เหลือ MRR และเพิ่มเงินทุนหมุนเวียนขยายการผลิต
นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ธ.ก.ส.ได้เห็นชอบตามที่ฝ่ายจัดการเสนอตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2558 ในโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรรายย่อยผ่านระบบ ธ.ก.ส. เพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรลูกค้าครอบคลุมทั้งลูกค้าที่ประสบ ปัญหาการชำระหนี้อันมีสาเหตุมาจากภาวะเศรษฐกิจภัยธรรมชาติรวมถึงราคาผลผลิต ตกต่ำ และลูกค้าที่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด โดย ธ.ก.ส.ได้กำหนดมาตรการในการแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกรลูกค้า ในกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ เกษตรกรรายย่อยที่มีหนี้สินรายละไม่เกิน 500,000 บาท จำนวนประมาณ 818,000 ราย หนี้สินจำนวนประมาณ 116,000 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการโครงการ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2558 – 31 มีนาคม 2559 ประกอบด้วย 3 โครงการย่อย ดังนี้
(1) โครงการปลดเปลื้องหนี้สิน กลุ่มเป้าหมายเป็นเกษตรกรรายย่อยที่ไม่มีศักยภาพ หรือมีเหตุผิดปกติ เช่น เสียชีวิต ทุพพลภาพ เจ็บป่วยเรื้อรัง และมีปัญหาสุขภาพจนไม่สามารถประกอบอาชีพได้ จำนวนประมาณ 28,000 ราย หนี้สินจำนวนประมาณ 4,000 ล้านบาท วิธีดำเนินการ โดย ธ.ก.ส. จะสอบทานลูกหนี้เพื่อการจัดการหนี้และพิจารณาปลดหนี้ให้แก่เกษตรกรรายย่อย โดยการจำหน่ายหนี้เงินกู้ออกจากบัญชีเป็นหนี้สูญตามหลักเกณฑ์การจำหน่าย ทรัพย์สินประเภทลูกหนี้ออกจากบัญชีเป็นหนี้สูญของธ.ก.ส.
(2) โครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ กลุ่มเป้าหมายเป็นเกษตรกรรายย่อยที่มีศักยภาพต่ำ โดยผ่านการประเมินศักยภาพแล้วปรากฏว่ายังมีความสามารถในการประกอบอาชีพแต่มี ปัญหาในการชำระหนี้จากเหตุสุจริตจำเป็นและเป็นภาระหนักจำนวนประมาณ340,000 ราย หนี้สินจำนวนประมาณ 48,000 ล้านบาท วิธีดำเนินการ โดย ธ.ก.ส.จะสอบทานลูกหนี้เพื่อการจัดการหนี้และพิจารณาจัดทำการปรับปรุงโครง สร้างหนี้ให้แก่เกษตรกรลูกค้าตามศักยภาพโดยให้ชำระต้นเงินตามงวดหรือระยะ เวลาที่ตกลงกันแต่ไม่เกิน10 ปี เว้นแต่มีความจำเป็นอาจกำหนดให้ชำระไม่เกิน 15 ปี และปลอดชำระต้นเงินเป็นระยะเวลา 3 ปี ธ.ก.ส.จะคิดดอกเบี้ยเงินกู้ที่ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ในอัตราปกติคือ MRR (ปัจจุบัน MRR เท่ากับร้อยละ 7 ต่อปี) ส่วนดอกเบี้ยก่อนปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้พักไว้เพื่อรอการจัดการ เมื่อเกษตรกรลูกค้าชำระหนี้ต้นเงินพร้อมดอกเบี้ยได้ตามงวดชำระหนี้ที่กำหนด ธ.ก.ส.จะพิจารณายกหนี้ในส่วนของดอกเบี้ยที่พักไว้ตามศักยภาพของเกษตรกร ลูกค้าแต่ละราย และดำเนินการฟื้นฟูการประกอบอาชีพให้แก่เกษตรกรลูกค้าตามโครงการนี้ ผ่านศูนย์เรียนรู้ชุมชน หรือร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำเนินการฟื้นฟูผ่านศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบล ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งสนับสนุนสินเชื่อเพิ่มเติมให้แก่เกษตรกรลูกค้าตามแผนฟื้นฟูการประกอบ อาชีพการเกษตรหรืออาชีพอื่นที่เหมาะสมเงินกู้ต่อรายไม่เกิน50,000 บาท วงเงินสินเชื่อรวม 15,000 ล้านบาท โดยคิดดอกเบี้ยในอัตราปกติของ ธ.ก.ส.
(3) โครงการขยายระยะเวลาชำระหนี้ กลุ่มเป้าหมายเป็นเกษตรกรรายย่อยที่มีศักยภาพในการประกอบอาชีพ แต่ได้รับผลกระทบจากการงดทำนาปรัง และราคายางพาราตกต่ำ จำนวนประมาณ 450,000 ราย หนี้สินจำนวนประมาณ 64,000 ล้านบาท วิธีดำเนินการ ธ.ก.ส.จะสอบทานหนี้เพื่อการจัดการหนี้ และพิจารณาขยายระยะเวลาชำระหนี้ตามศักยภาพของเกษตรกรลูกค้า โดย ธ.ก.ส.คิดดอกเบี้ยในอัตราปกติของธ.ก.ส. และไม่คิดเบี้ยปรับ นอกจากนี้ ยังได้สนับสนุนสินเชื่อเพิ่มเติมให้แก่เกษตรกรลูกค้าเพื่อปลูกพืชอื่นทดแทน หรือประกอบอาชีพการเกษตรอย่างอื่น หรือประกอบอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ เงินกู้ต่อรายไม่เกิน 100,000 บาท วงเงินสินเชื่อรวม 35,000 ล้านบาท โดยคิดดอกเบี้ยในอัตราปกติเช่นกัน
และเพื่อเป็นการตอบแทนเกษตรกรลูกค้าที่มีวินัยทางการเงินและสร้างขวัญ กำลังใจแก่เกษตรกรลูกค้าในการประกอบอาชีพ สำหรับเกษตรกรลูกค้าที่ชำระหนี้ได้ตามกำหนดธ.ก.ส.ได้กำหนดมาตรการในการดูแล เกษตรกรลูกค้าโดยให้ได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ดังนี้ ลดอัตราดอกเบี้ยให้ทุกปี ซึ่งอัตราดอกเบี้ยต่ำสุดในขณะนี้เท่ากับ MRR ร้อยละ7ต่อปี ให้สินเชื่อเพิ่มเติมสำหรับใช้จ่ายยามฉุกเฉินหรือจำเป็นในครอบครัว ตามโครงการสินเชื่อเงินด่วน (A - Cash) วงเงินกู้รายละไม่เกิน 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ย MRR ร้อยละ7ต่อปี ให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อทำการผลิตการเกษตรรูปแบบใหม่ ให้สินเชื่อเพิ่มเติมในการจัดหาปัจจัยการผลิตผ่านบัตรสินเชื่อเกษตรกร รายละไม่เกิน 50,000 บาท ให้สินเชื่อโครงการแก้ไขหนี้นอกระบบของเกษตรกรและบุคคลในครัวเรือน เงินกู้ 100,000 บาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อเดือน ได้รับสิทธิ์ในการเข้าร่วมโครงการกองทุนทวีสุขเพื่อการออมเงินยามเกษียณ พร้อมรับดอกเบี้ยพิเศษและสวัสดิการโครงการ ให้สินเชื่ออุ่นใจคนไกลบ้าน สำหรับบุตรของเกษตรกรลูกค้าที่เข้ามาทำงานในเมือง เงินกู้ 100,000 บาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อเดือน เป็นต้น
นอกจากนี้ ธ.ก.ส.ได้เสนอสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมให้แก่เกษตรกรลูกค้า โดยการผ่อนปรนหลักประกันจำนอง เป็นการช่วยเหลือเกษตรกรลูกค้าที่มีประวัติการชำระหนี้ได้ติดต่อกันตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป (AAA+) และใช้หลักประกันจำนองในการกู้เงินให้มีเงินทุนเพิ่มขึ้นในการประกอบอาชีพ หรือพัฒนาคุณภาพชีวิต โดย ธ.ก.ส.จะขยายวงเงินกู้เพิ่มเติมให้กับเกษตรกรลูกค้าที่ใช้หลักประกันจำนอง กู้เงินได้ ในอัตราร้อยละ 100 ของวงเงินจดทะเบียนจำนอง ทั้งนี้ ธ.ก.ส.จะดำเนินการต่อเมื่อได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว


....................................................................................................................................
สร้างรายได้ออนไลน์ฟรี!คลิ๊กเลย

วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

วิธีทำให้ผิวขาวแบบธรรมชาติ 3 สูตร (ไม่) ลับ ทำได้ง๊ายง่าย...

วิธีทำให้ผิวขาวแบบธรรมชาติ

          วิธีทำให้ผิวขาวแบบธรรมชาติ เปลี่ยนผิวหมองคล้ำให้สวยเนียนใสแบบธรรมชาติด้วยวัตถุดิบธรรมชาติ ทั้งสวยทั้งประหยัดแบบนี้ ไม่ลองไม่ได้แล้ว...

          ทุก วันนี้ใคร ๆ ก็อยากมีผิวขาว แต่ถ้าจะผิวขาวทั้งทีมันก็ต้องขาวใสแบบธรรมชาติถึงจะดูแล้วน่ามอง ซึ่งทุกวันนี้การทำให้ผิวขาวขึ้นก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะสมัยนี้มีทั้งสปาผิวขาว กินวิตามิน คอลลาเจน หรือแม้แต่ฉีดกลูต้าไธโฮน แค่นี้ก็สามารถดูขาวได้ในพริบตาแล้ว แต่อย่างไรก็ตามวิธีเหล่านี้ก็ยังคงยุ่งยากและมีราคาแพงอยู่ดี เผลอ ๆ อาจจะเป็นอันตรายและมีผลข้างเคียงกับร่างกายอีกด้วย ถ้าอย่างนั้นกระปุกดอทคอมขอเสนอแนวทางเลือกให้คุณสาว ๆ ลองหันมาทำให้ผิวขาวแบบธรรมชาติด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติกันดีกว่าค่ะ บอกเลยว่าวิธีต่อไปนี้ทำได้ง่ายมาก ๆ ที่สำคัญยังปลอดภัยแและช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้อีกด้วยนะคะ
วิธีทำให้ผิวขาวแบบธรรมชาติ

สูตรที่ 1

          วัตถุดิบที่ใช้ มะขามเปียก 1 กำ, น้ำอุ่น ครึ่งถ้วย, น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ, และผงขมิ้น 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

          นำ มะขามเปียกมาแช่ในน้ำอุ่น จากนั้นผสมน้ำผึ้งและผงขมิ้นลงไป คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน เสร็จแล้วให้นำมาขัดให้ทั่วตัว พอกทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วค่อยล้างออก หากทำแบบนี้ประมาณ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ผิวของคุณจะได้รับการผลัดเซลล์ผิวใหม่ทำให้ขาวใสและสวยผ่องเป็นยองใยแน่นอน ค่ะ

วิธีทำให้ผิวขาวแบบธรรมชาติ

สูตรที่ 2

          วัตถุดิบที่ใช้ โยเกิร์ต รสธรรมชาติ 2 ถ้วย, น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ, น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ, เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

          นำ น้ำมะนาว น้ำผึ้ง และเกลือมาผสมกับโยเกิร์ต เสร็จแล้วให้นำมาขัดตัวและพอกทิ้งไว้ประมาณ 25-30 นาที ล้างออกให้สะอาด จากนั้นอาบน้ำขัดตัวด้วยใยบวบอีกครั้ง สูตรนี้สามารถทำได้อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ผิวของคุณจะขาวใสแบบเป็นธรรมชาติ ที่สำคัญความหมองคล้ำและรอยกระฝ้าตามผิวหนังจะจางลงได้ด้วย

วิธีทำให้ผิวขาวแบบธรรมชาติ

สูตรที่ 3

          วัตถุดิบที่ใช้ ดินสอพอง 10-12 เม็ด, น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ, น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ, นมสด ครึ่งถ้วย


วิธีทำ

          นำ ดินสอพองลงไปละลายในนมสด จากนั้นเติมน้ำมะนาวและน้ำผึ้งลงไป คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน เมื่อเสร็จแล้วให้นำมาขัดตัวเป็นวงกลมให้ทั่ว ๆ จากนั้นพอกทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที ล้างออกให้สะอาด สูตรนี้จะช่วยทำให้ผิวขาวเนียนนุ่มเป็นธรรมชาติ และช่วยให้รอยดำต่าง ๆ ตามผิวหนังจางลงได้

          เห็น ไหมคะสาว ๆ ว่าวิธีทำให้ผิวขาวแบบธรรมชาติจากวัตถุดิบธรรมชาติที่กระปุกดอทคอมนำมาฝากใน วันนี้ทำได้ง่ายมาก ๆ แถมยังปลอดภัยและได้ผลสุด ๆ รับรองว่าผิวของคุณจะขาวใสสุขภาพดีได้แบบไม่สะเทือนเงินในกระเป๋าแน่นอนค่ะ

9 เทคนิคการโปรโมทเว็บไซด์ฟรีๆและโปรโมทโรงแรม รีสร์อท และธุรกิจอื่นๆแบบฟรีๆ


ปัจจุบัน ทำไมหลายธุรกิจ จึงให้ความสำคัญ ในการ โปรโมทเว็บไซด์ หรือธุรกิจต่างๆ เพื่อการ ประชาสัมพันธ์ธุรกิจของตนเองมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น โปรโมทโรงแรม ร้านอาหาร รีสร์อท หรือเว็บไซด์ทั่วๆไปเพราะว่า ปัจจุบัน การเข้า อินเตอร์เน็ตเป็นเรื่องง่าย และขยายตัวไปทุกชนชั้นอย่างรวดเร็ว  วันนี้ เลยอยากจะมาแนะนำแนวทางการโปรโมทเว็บฟรีๆ ที่สามารถทำด้วยตัวเองได้ง่าย ก่อนอื่นเรามาดูว่า วิธีัการ โปรโมทเว็บไซด์ โปรโมทโรงแรม รีสร์อท และธุรกิจท่องเเที่ยวอื่นๆ  เขาทำกันอย่างไร และมีวิธีการอย่างไรบ้าง
1.      Social Network
สังคมออนไลน์ ที่เติบโตอย่างเร็ว  Social Network ถือว่า เป็นช่องการทำการตลาดที่ง่าย และประหยัดที่สุด และนิยมมากที่สุดสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในเวลาอันรวดเร็ว Social Network มีหลายหลายเช่น Facebook,Twitter,LinkIn,FourSquare,Google+,Pinterest
2.     สร้าง Blog ฟรี
เทคนิคการ โปรโมทเว็บไซด์ ผ่าน ทาง Blog จเป็นช่องทางที่ง่าย และประหยัดค่าใช้จ่ายเป็นอย่างมาก เหมาะสำหรับคนที่ต้องมีเว็บ โดยไม่ต้องจดโดเมน หรือเช่าโฮส ที่ต้องเสียเงิน ในการดูแลรักษา Blog ฟรี มี ประโยชน์อย่างมาก ที่สำคัญคือ การบริการที่ ฟรี และความสามารถสูงในการโปรโมท เนื่องจากติด Search Engine ได้ง่าย Blog ที่นิยมของต่างประเทศ เช่น Blogger,WordPress,Squidoo,MyOpera, VOX, livejounal, MySpace, Xanga เป็นต้น
3.      ตอบกระทู้ Comment onWeb board 
การตอบกระทู้ที่ตรงกับธุรกิจของ ท่าน ผ่าน  Forum หรือ Web board  เป็นช่องทางหนึ่ง ที่จะได้สือสารกับกลุ่มลูกค้าโดยตรง รู้ว่าลูกค้าต้องการอะไร และจะต้องตอบสนองความต้องเขาได้อย่างไร สิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ตอบกระทู้ Comment onWeb board จึงเป็นสิ่งที่ไมควรข้าม
 4.      เขียนแนะนำเว็บของตัวเอง ผ่านบทความ
การเขียนเนื้อหา หรือบทความ ลงกับเว็บไซด์ของเราลงเว็บไซด์ ที่มีบริการพื้นที่ให้เขียน Blog หรือ Article ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในต่างประเทศ นอกจากจะประชาสัมพันธ์เว็บไซด์ของเรา แล้ว ยังช่วยเพิ่มเพิมอันดับในการค้นหา(SEO)ได้เป็นอย่างดี หลายๆเว็บเลือกวิธีนี้เพราะว่า เท่ากับได้ประโยชน์ 2 เท่า และยังไม่เสียค่าใช้จ่ายด้วย ส่วนมากนิยมในการ โปรโมทโรงแรม รีสอร์ท และ ธุรกิจท่องเที่ยว
5.       เขียน Review
การเขียนรีวิวเว็บไซด์ สินค้า หรือบริการ ของตัวเอง ในช่วงแรก ควรเขียนรีวิวิ เว็บของเรา ผ่านเว็บไซด์ บ้าง และอย่าลืมใส่ลิงค์มาที่เว็บของเรา เพือเพิ่มโอกาสให้คนรู้จักเว็บเรามากขึ้น เราสามารถเขียนรีวิว ได้ที่เว็บ หรือกระทู้ ที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจของเรา แต่อย่าเขียน แบบ SPAM นะครับ ดังนั้นเว็บการค้าใหญ่จึงมีช่องทางใช้ผู้ใช้เขียนรีวิว เช่น Amazon.com Booking.com มีอีกหลายเว็บไซด์ที่ให้ท่านสามารถเขียนรีวิวธุรกิจของท่านได้
6.      Banner Advertising
การลงโฆษณาใน รูปแบบของแบนเนอร์ มีทั้งแบบฟรี และไม่ฟรี เราสามารถลง แบนเนอร์ แบบฟรี ได้ โดยการค้นหา ผ่าน Google จะพบว่ามีหลายเว็บที่ให้เราลงแบนเนอร์ ฟรีได้ แม้จะเป็นเว็บไม่ดัง แต่ถ้าลง หลายๆ เว็บก็เป็นช่องทางการโปรโมทที่ช่วยเพิมโอกาสให้เว็บของเราได้ โดยไม่ต้องเสียเงินสักบาท
7.      VIDEO
การโปรโมทเว็บไซด์ฟรี ๆ ผ่านวิดีโอ เป็นเรื่องที่ง่าย สะดวกรวดเร็ว และให้ผลเกินคาด แต่หลายๆคนมองข้ามไป เพียงแค่ ถ่ายวิดีโอ แล้วอัพโหลดขึ้นบน You tube แต่การใส่รายละเอียด ตั้งชื่อให้ค้นหาง่าย รวมทั้ง ลิงค์มายังเว็บไซด์  วีดีโอของคุณก็อาจจะอยู่หน้า แรกของ Google ได้อย่างง่ายดาย
8.      Search Engine Optimization (SEO)
การเพิ่มอันดับมนการค้นหา เพื่อให้เว็บ อยู่อันดับต้นๆ ของการค้นหาผ่าน Google เป็นสิ่งที่ต่องการ ของหลายคน แต่น้อยคนนักที่เข้าใจการทำ SEO เพราะต้องอาศัยผู้ที่มีความรู้ความชำนาญเป็นพิเศษ มีองค์ประกอบหลักๆ คือ Onpage SEO และ Offpage SEO แต่มีปัจจัยหลายๆอย่าง เช่น Back link คู่แข่ง, Keywords ,โครงสร้างเว็บไซด์  เป็นต้น แต่หลัการง่ายๆที่สามารถทำเองได้ คือหา Back Link มาสู่เว็บของเราให้มากที่สุด แต่ต้องเป็นลิ้งค์ที่เกี่ยวข้องกัน และต้องค่อยเพิ่มวันละ 2-3 ลิงค์ ก็พอ และปรับให้เว็บของเรามี keyword ทีมีคนค้นหาใน Title และ Description ของเว็บของเรา
9.      E-Mail Marketing
การโปรโมทเว็บ หรือการทำตลาดผ่าน e-mail เป็นแนวทางหลายคนเลือกทำ แต่ทำผิดวิธีที่ โดยการ ส่ง Spam E-Mail ไปรบกวนคนอื่นโดยไม่ใช่กลุ่มคนที่เขาต้องการ การโปรโมทเว็บ โดยการส่ง E-mail ที่ถูกต้องควรมีกล่องรับสมาชิกทางอีเมลล์ หรือส่งอีเมลล์ที่มีประโยชน์ต่อกลุ่มลูกค้า ที่เขาต้องการ การโปรโมทเว็บ ที่ถูกวิธีจะให้ผลที่คุ้มค่า เพราะลงทุนน้อย และยังมีคนติดตามเว็บของคุณอย่างต่อเนื่อง และยังสามารถเพิ่มยอดขายได้ โดยไม่ต้องลงทุอะไรมาก

ไม่มีสินค้า? เขียนเว็บไม่เป็น? ก็หาเงินได้ง่ายๆด้วย Affiliate Marketing


  
ถึงคุณไม่มีความรู้เรื่อการเขียนเว็บ คุณก็สามารถหาเงินได้ด้วย Affiliate Marketing คือการทำการตลาดให้กับเว็บที่ขายสินค้าหรือบริการโดยที่เราสามารถจะช่วยเห ลือเว็บเหล่านั้นในการหาลูกค้าที่จะมาซื้อของผ่านหน้าเว็บ โดยเราจะได้รับส่วนแบ่งเป็นค่า Commission ตามยอดซื้อของลูกค้าที่เราหามาได้ ซึ่งโดยส่วนใหญ่เราจะได้ค่า Commission อยู่ที่ 10-30% ของราคาสินค้า

มูลค่าตลาด  (ธุรกิจ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์) ในไทยปี 54 มีมูลค่ากว่า 6 แสนล้านบาท ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า ตลาดน่าจะมีการเจริญเติบโตขึ้นไปอีก 20-30% ในปี 55-56 เพราะการที่คนไทยเริ่มคุ้้นเคยกับการซื้อขายบนโลกไซเบอร์ นั่นหมายถึง รถไฟขบวน e-Commerce นี้กำลังพุ่งทะยานสร้างรายได้มากมายให้กับหลายคน
ถึงแม้จะรู้ว่ารถไฟขบวนนี้พุ่งแรงและสร้างรายได้ได้มาก แต่อีกหลายคนอาจจะมีข้อจำกัดที่ไม่สามารถหารายได้จากตลาด eCommerce นี้ได้อาจจะเป็นเพราะ เขียนเว็บไม่เป็น, ไม่มีสินค้า แต่เดี๋ยวก่อน วันนี้เราจะมีการแนะนำวิธีการที่เราจะสามารถหาเงินได้จากการช่วยขายของให้ กับคนอื่น หรือที่เรียกว่า 
Affiliate Marketing คือ การทำการตลาดให้กับเว็บที่ขายสินค้าหรือบริการโดยที่เราสามารถจะช่วยเหลือ เว็บเหล่านั้นในการหาลูกค้าที่จะมาซื้อของผ่านหน้าเว็บ โดยเราจะได้รับส่วนแบ่งเป็นค่า Commission ตามยอดซื้อของลูกค้าที่เราหามาได้ ซึ่งโดยส่วนใหญ่เราจะได้ค่า Commission อยู่ที่ 10-30% ของราคาสินค้า 
ข้อดีที่สำคัญ ของ Affiliate Marketing คือการที่คุณไม่จำเป็นต้องเขียนเว็บเป็น ไม่ต้องมีสินค้า ไม่ต้องซื้อสินค้ามาเก็บเพื่อขาย ไม่ต้องส่งของ ไม่ต้องบริการหลังการขาย เรียกได้ง่ายๆว่า ลงแรงพร้อมกับความรู้ในการหาลูกค้าเพื่อเข้าซื้ออย่างเดียวก็สามารถหารายได้ ได้แล้ว
ในต่างประเทศ Affiliate Marketing เป็นหนึ่งในธุรกิจที่สร้างรายได้หลักให้กับแม่บ้าน หรือ รายได้เสริมให้กับพนักงานเงินเดือนได้ถึง 90,000 – 150,000 บาทโดยเฉลี่ยต่อปีถ้าทำแบบพาร์ทไทม
ตัวอย่างเว็บ eCommerce ที่โด่งดังอย่าง  ก็มีระบบการให้ Affiliate ช่วยในการขายสินค้าเช่นกัน https://affiliate-program.amazon.com/
โดย Amazon จะจ่ายเงินจากจำนวนของที่ขายได้จากการดึงคนเข้าสู่เว็บของคุณคิดเป็น % ของยอดขาย ถ้ายิ่งขายได้มาก ก็จะยิ่งได้ % มากขึ้น
AMAZON Affiliate ไม่มีสินค้า? เขียนเว็บไม่เป็น? ก็หาเงินได้ง่ายๆด้วย Affiliate Marketing
AMAZON Affiliate
นอกจากนั้นเองภายในประเทศไทยก็มีการทำ Affiliate Marketing ได้เช่นเดียวกันยกตัวอย่างเช่น
Trendyday.com  (http://www.trendyday.com/affiliate/) โดย Officemate ที่ขายสินค้ามากมายที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน วิธีการสมัครก็ง่ายมาก เพียงแค่เข้าเว็บไซท์ไปกรอกข้อมูล หลังจากนั้นก็เพียงแค่ให้คนเข้ามาซื้อสินค้าผ่านทาง Link ที่เราโปรโมทผ่านช่องทาง Blog, โฆษณา, E-mail, Tweet, facebook หรือ ช่องทาง Online อื่นๆของคุณ เพียงเท่านี้คุณก็จะได้รับ Commission 10% และมีการสะสมยอดประจำเดือนและโปรโมชั่นพิเศษอีกด้วย 
Untitled ไม่มีสินค้า? เขียนเว็บไม่เป็น? ก็หาเงินได้ง่ายๆด้วย Affiliate Marketing
ข้ามฟากไปยังอีก Affiliate Marketing ระดับโลกที่เป็นสินค้าเฉพาะทางประเภทอาหารเสริมและเครื่องสำอาง คุณภาพสูงผลิตจากแหล่งวัตถุดิบจากธรรมชาติของ New Zealand อย่าง  http://lovelifelivelonger.com/ ที่มาตั้งบริษัทไทยประเทศไทยร่วม 5 ปีแล้ว และมีระบบร้านค้ารูปแบบ Affiliate Marketing ที่ทาง Xtend-Life เรียกว่า e-Franchise ที่ เปรียบเสมือนกับให้คุณเปิด franchise ร้านสินค้าจำพวกเครื่องสำอางและอาหารเสริมของ Xtend-Life บนโลกออนไลน์โดยไม่ต้องลงทุนอะไรเลย! ลงแต่แรง
Xtend Life ไม่มีสินค้า? เขียนเว็บไม่เป็น? ก็หาเงินได้ง่ายๆด้วย Affiliate Marketing
โดย e-franchise ของ Xtend-Life มีระบบที่ให้คุณสามารถบริหารงานหน้าร้านของคุณได้ง่ายๆ ตั้งแต่การเลือกแบบของร้านค้า การโฆษณาไปยัง Contact List ของคุณ โดยคอมมิชชั่น ของ Xtend-Life สูงถึง 24% โดยผู้บริหารได้ทำการจำกัดจำนวนของ Foundation Member ที่จะได้รับสิทธิพิเศษไว้อยู่ที่ 10,000 ราย ใครสนใจอาจจะต้องรีบหน่อย
โดยถ้าคุณเลือกและสนใจที่จะทำ Affiliate Marketing จริงๆ คุณควรจะเรียนรู้ 5 เรื่องสำคัญ สำหรับการทำ Affiliate Marketing ดังนี้
  1. การ เข้าใจในสินค้าที่เรากำลังจะขายว่า เหมาะกับใคร และ ใครจะซื้อ รวมถึง ศึกษาข้อมูลว่า คนเหล่านั้น มีพฤติกรรมบนโลกอินเตอร์เนตอย่างไร
  2. ศึกษา เรื่องโฆษณาต่างๆ โดยเฉพาะโฆษณาแบบ CPC (Cost-Per-Click) ที่ส่งโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมาย เช่น facebook ads, google adwords, adnetwork ที่ช่วยให้คุณสามารถส่งโฆษณาที่เหมาะสมไปยังกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้ (เพราะ CPC Ads จะเสียค่าใช้จ่ายเมื่อมีคนคลิกเข้าไปใน link นั้น)
  3. ใน กรณีที่คุณมี Blog คุณอาจจะต้องเรียนรู้เรื่องการเขียนบทความ หรือ เรื่องที่น่าสนใจอื่นๆเช่นรูปถ่ายหรือ Video เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย และควรจะเรียนรู้เรื่อง SEO และ SMO ควบคู่กันไปด้วย
  4. เรียนรู้เทคนิคการสร้างตัวคนให้ดังและมีคนสนใจบน Social Network
  5. ใน กรณีที่ 4 ข้อด้านบนยากเกินไป คุณอาจจะใช้วิธี Personal Selling คือขายด้วยตัวคุณเองไปก่อน และให้คนที่สนใจสินค้า เข้าไปซื้อโดยผ่าน Link ที่คุณส่งให้ คุณก็จะได้รับ Commission เช่นกัน
  6. สุดท้ายที่สำคัญมากๆ และควรระวังสำหรับการทำ Affiliate Marketing ก็คือ มีการแฝงตัวของการขายตรงในรูปแบบแชร์ลูกโซ่ตามเว็บต่างๆ ดังนั้นการเลือกเว็บ Affiliate Marketing ที่มีการ รับรองจากรัฐบาล อย่างเช่นมีการลงทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์อย่างถูกต้อง พร้อมเครื่องหมาย DBD Registered หรือ ถ้าเป็นอาหารเสริม หรือ ยาต่างๆ ก็ควรจะตรวจสอบให้แน่ใจว่า สินค้าเป็นสินค้าที่มีการจดทะเบียนกับ อย. อย่างถูกต้องตามกฎหมายจริงๆ และไม่ควรจะมีค่าใช้จ่ายใดๆ ในการสมัครเป็น Affiliates เพราะเราไม่ได้ทำการ stock สินค้า แต่เราช่วยหาลูกค้าไปซื้อเท่านั้น
Affiliate Marketing ถือเป็นช่องทางหารายได้ ทั้งแบบรายได้หลักและรายได้เสริมได้เป็นอย่างดี เพียงทำความเข้าใจในตัวลูกค้าและการหาลูกค้าบน Internet โดยไม่ต้องมีสินค้า หรือความรู้ในการเขียนเว็บไซท์ ซึ่งคุณก็อาจจะทำเงินแสนต่อปีได้ไม่ยากนัก ขอให้โชคดีครับ icon smile ไม่มีสินค้า? เขียนเว็บไม่เป็น? ก็หาเงินได้ง่ายๆด้วย Affiliate Marketing

8 สิ่งที่ต้องทำ!! ก่อนอายุ 60




60y

อย่ารอให้แตะ 60 แล้วค่อยเตรียมตัวเกษียณ ถึงเวลานั้นอาจทำใจได้ยาก เพราะปรับตัวปรับใจไม่ทัน เพื่อให้ตั้งรับกับวัยเกษียณอย่างชาญฉลาด อยากให้เริ่มต้นนับถอยหลังตั้งแต่ขึ้นเลขห้า ปูพรมแดงเตรียมไว้สำหรับชีวิตใหม่หลังเกษียณที่สดใสกว่า…


ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านผู้สูงอายุ “ดร.เดมอน ราสคิน” นำเสนอ 8 สิ่งที่ต้องทำก่อนอายุ 60 เพื่อเป็นแนวทางสำหรับเตรียมตัวรับวัยเกษียณอย่างมีคุณภาพ สิ่งแรกคือ “การหาเพื่อนใหม่ๆที่อายุน้อยกว่า” เพื่อสร้างความมีชีวิตชีวาไม่อับเฉา ลองหากิจกรรมใหม่ๆทำเพื่อผูกมิตรกับเพื่อนต่างวัย แทนที่จะขลุกอยู่กับกลุ่มคนแก่ คุยแต่เรื่องเก่าๆที่ทำให้ห่อเหี่ยวหัวใจ

สิ่งที่สองที่ควรทำในวัยก่อนเกษียณคือ “เลิกพฤติกรรมไม่ดีที่ทำจนติดเป็นนิสัย” ไม่มีคำว่าสายเกินไปสำหรับการเลิกสูบบุหรี่ หรือเลิกนิสัยไม่ดีที่ทำลายสุขภาพกายและใจ

“วางแผนเกษียณอายุ” เพื่อเตรียมสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดีไว้เป็นของขวัญให้ตัวเองยามแก่เฒ่า อย่าผัดวันประกันพรุ่งว่าเมื่อวันนั้นมาถึงค่อยคิด เริ่มตั้งแต่วันนี้ ลองถามตัวเองว่า ถ้าพรุ่งนี้คือวันที่ต้องเกษียณอายุจากงาน คุณมีเงินทองสำรองไว้เลี้ยงดูตัวเองหรือยัง และนอกเหนือจากงานประจำที่ทำมาทั้งชีวิต จริงๆแล้วชีวิตนี้คุณอยากทำอะไร การค้นหาตัวเองตอนอายุ 60 คงไม่สนุกแน่นอน เพราะเต็มไปด้วยแรงกดดัน

ชีวิตของคนวัยเกษียณผ่านอะไรมาเยอะแยะ ก่อนจะถึงอายุ 60 สิ่งสำคัญที่ควรทำคือ “การรู้จักให้อภัยคนอื่น” เพื่อปลดปล่อยตัวเองจากความขุ่นข้องหมองใจ ใครเคยทำอะไรไม่ดีกับคุณ ก็ขอให้ลืมๆไปซะ ความโกรธความเกลียดเหมือนเราซดยาพิษ แล้วมโนไปเองว่ามันจะออกฤทธิ์ฆ่าศัตรูของเรา

“ขุดหาความฝันในวัยเยาว์ แล้วทำมันให้เป็นจริง” ความฝันไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กก็ล้วนแต่มีคุณค่า เราใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตหมดไปกับการแสวงหาความสำเร็จในหน้าที่การงาน และสั่งสมความมั่งคั่ง โดยมักหลงลืมไปว่าอะไรคือความสุขแท้จริง ก่อนวัยเกษียณลองหางานอดิเรกที่ทำแล้วมีความสุขให้เจอ อาจเป็นกิจกรรมง่ายๆที่ชื่นชอบตอนเด็ก เช่น การปลูกต้นไม้, ขี่จักรยาน, เลี้ยงปลา และเขียนหนังสือ สิ่งเหล่านี้เปรียบเหมือนยาชูใจที่สร้างความกระปรี้กระเปร่าในช่วงบั้นปลาย ชีวิต

“หยอดกระปุกสะสมความมั่งคั่งไว้รองรับชีวิตวัยเกษียณ” คงปฏิเสธไม่ได้ว่าถ้าอยากใช้ชีวิตหลังรีไทร์อย่างมีความสุข ต้องมีเงินทองเพียงพอจะเลี้ยงตัวเอง อย่าไปหวังให้ลูกหลานมาเลี้ยงดูเราเลย คำว่าเพียงพอก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคน ลองคำนวณคร่าวๆว่า ถ้าเรามีชีวิตอยู่จนถึง 80 ปี ต้องเตรียมเงินไว้ใช้หลังเกษียณอีก 20 ปี แต่ละเดือนเราต้องการใช้จ่ายเท่าไหร่ ก็เอาตัวเลขคูณกับจำนวนปี สมมติว่าอยากใช้เงินเดือนละ 20,000 บาท ภายในเวลา 20 ปี ต้องมีเงิน 4 ล้าน 8 แสนบาท คิดดูล่ะกันว่าถ้าไม่รีบหาเงินตอนยังมีเรี่ยวแรง พอแก่ไปจะหาเงินล้านจากไหน…นี่ยังไม่นับรวมเงินสำรองไว้ใช้ยามเจ็บป่วย

“เป็นเจ้าของกิจการตอนอายุ 50 ไม่ใช่เรื่องแปลก” การเปลี่ยนอาชีพตอนที่ยังมีกำลังวังชาบุกเบิกธุรกิจใหม่ อาจช่วยต่อลมหายใจการทำงานเพื่อสะสมความมั่งคั่งออกไปอีก 10-20 ปี แทนที่จะจบชีวิตทำงานตอนอายุ 60 ยิ่งเริ่มต้นเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งประสบความสำเร็จเร็วเท่านั้น

ไม่มีอะไรจะน่าเกลียดเท่าการเป็นคนแก่ขี้หงุดหงิด, อารมณ์ร้าย และเจ้ากี้เจ้าการชอบจับผิด ก่อนจะถึงวัยเกษียณ “ลองปลูกเมล็ดพันธุ์ของการคิดบวกลงในใจ” ใครๆก็อยากอยู่ใกล้คนที่มองโลกในแง่ดี สำหรับคนสูงวัย คงไม่มีของขวัญใดจะล้ำค่าเท่าชีวิตที่สุขสงบ มีแต่ความสบายใจ!!




ที่มา ไทยรัฐ

 

เพื่อนๆ ที่อายุยังไม่ถึง 60 อย่าเพิ่งชะล่าใจนะครับ วันนี้คุณทำอะไรเพื่อตัวเองแล้วหรือยัง ?

สร้างรายได้ออนไลน์ ฟรี!

วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

"น้องวอ" หนุ่มสวยสุดฮอตที่สาวแท้ยังอาย

น้องวอ วรณัฐ สุขวณิช

น้องวอ วรณัฐ สุขวณิช

          "น้องวอ" หนุ่มสวยสุดฮอตที่สาวแท้ยังอาย เปิดใจรายการทีวีที่แรก ล่าสุดตัดสินใจไม่ไปเรียนที่ ม.เชียงใหม่แล้ว เพราะอะไร...?

          เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2558 รายการยกทัพข่าวเช้า สถานี PPTV ได้พูดคุยกับแขกรับเชิญในรายการสดคือ "น้องวอ" วรณัฐ สุขวณิช อายุ 19 ปี ซึ่งปรากฏเป็นภาพที่โด่งดังในโลกโซเชียล กรณีที่แต่งกายในชุดนักเรียนชายมัธยมปลายจากโรงเรียนวัดสุทธิวราราม ไปแนะนำตัวในการสอบสัมภาษณ์เข้าเรียนต่อในคณะบริหารธุรกิจ ม.เชียงใหม่ แต่รูปร่าง ลักษณะ หน้าตา สวยขาว น่ารักยิ่งกว่าสาวแท้ ๆ หลายคน

น้องวอ วรณัฐ สุขวณิช

          น้องวอ เล่าว่า ตนเองมีจิตใจเป็นผู้หญิงตั้งแต่จำความได้ และเริ่มดูแลตนเองแบบผู้หญิงตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ม.2 เป็นต้นมา โดยที่ทางบ้านก็ยอมรับได้ในสิ่งที่ตนเองเป็น ครอบครัวมีพี่ชายอีกคน ก็จะเลี้ยงดูเหมือนตนเองเป็นลูกสาวของบ้าน แต่ที่ผ่านมาตนเองไม่เคยไปทำศัลยกรรมใด ๆ รวมทั้งเรื่องของการแปลงเพศ ซึ่งยังเป็นเรื่องของอนาคตที่ก็คิด ๆ ไว้ แต่สิ่งที่อยากพัฒนาตนเองมากกว่าเรื่องร่างกายคือ เรื่องของบุคลิกภาพ การพูด การวางตัวมากกว่า เมื่อถามถึงไอดอล น้องวอ ตอบว่าคือ พี่ปอย ตรีชฎา ตนเองอยากสวยและมีบุคลิกที่ดีแบบพี่ปอย

น้องวอ วรณัฐ สุขวณิช

          นอกจากนี้ น้องวอ ยังพูดถึง เรื่องความสนใจในอนาคตด้วยว่า สนใจงานในวงการบันเทิงเช่นกันถ้ามีโอกาส รวมถึงเวทีการประกวดสำหรับสาวประเภทสองอย่างเวทีมิสทิฟฟานี่ก็เป็นสิ่งที่ ใฝ่ฝัน แต่ก็มีความคิดที่อยากจะเรียนให้สูง ๆ ไปถึงระดับปริญญาโท หรือปริญญาเอกด้วย โดยเฉพาะทางด้านบริหารธุรกิจ และมองว่าการที่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะมีการให้คำนิยามในคำว่า "เพศสภาพ" ก็ถือเป็นก้าวเล็ก ๆ ที่เปิดกว้างมากขึ้นของสังคมสำหรับสาวประเภทสอง

          น้องวอ ระบุว่า ปัจจุบัน ตนเองเรียนทางด้านเศรษฐศาสตร์อยู่ชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร แต่ที่ปรากฏเป็นภาพข่าวที่ ม.เชียงใหม่ เพราะตนเองนำผลสอบแอดมิชชั่นเดิมลงสมัครเรียนใหม่ที่คณะบริหารธุรกิจ มช. แล้วสอบเข้าได้ ทีแรกตั้งใจว่าจะไปเรียนเพราะชอบบริหารธุรกิจ แต่ขณะนี้ตัดสินใจแล้วว่าจะเรียนต่อที่เดิมคือที่ มศว เนื่องจากตนเองยังไม่พร้อมหลายด้าน ยอมรับว่าข่าวเรื่อง มช. รับน้องที่เป็นสาวประเภทสองหนักนั้นก็มีส่วนต่อการตัดสินใจบ้างแต่เพียงเล็ก น้อยเท่านั้น

น้องวอ วรณัฐ สุขวณิช

น้องวอ วรณัฐ สุขวณิช

          เมื่อถามถึงเรื่องหัวใจ น้องวอ บอกว่า ก็มีผู้ชายเข้ามาจีบบ้าง แต่ตนยังไม่ได้คบใครและยังไม่มีแฟน ส่วนสเปคของตนนั้นไม่ได้กำหนด เพียงแต่ชอบผู้ชายที่ตัวสูง ๆ อย่างน้อยก็ขอให้สูงกว่าตนเองที่สูงประมาณ 171 ซม. แต่สิ่งสำคัญคือขอให้มีความเข้าใจและยอมรับในสิ่งที่ตนเป็นได้ และสามารถดูแลตนได้

          ตั้งแต่มีกระแสในโลกโซเชียล ก็มีผู้คนเข้ามาสนใจ เป็นแฟนคลับมากขึ้น น้องวอ ระบุว่า "ต้องกราบขอบพระคุณเพื่อน ๆ ทุกคนที่ชื่นชอบ และสนใจ มีอะไรสามารถแนะนำวอได้ ติติงได้ วอรับรองว่าจะไม่ทำให้เพื่อน ๆ ชาวโซเชียลต้องผิดหวังค่ะ"

          สุด ท้ายพิธีกรรายการแซวว่าถ้าหากวันหนึ่งเข้าวงการบันเทิงแล้ว จะเชิญน้องวอมาพูดคุยกันอีกในรายการ แต่อย่าลืมรายการยกทัพข่าวเช้าด้วยนะ น้องวอ กล่าวว่า "วอมาออกรายการที่นี่เป็นที่แรก ยังไงก็จะไม่ลืมแน่นอนค่ะ"

น้องวอ วรณัฐ สุขวณิช

น้องวอ วรณัฐ สุขวณิช




ภาพจาก รายการยกทัพข่าวเช้า , เฟซบุ๊ก Wo'e Jade , เฟซบุ๊ก Nopparat Patikorn ,ทวิตเตอร์ @barbie_bank
-ขอบคุณที่มา:http://hilight.kapook.com